|
|
||
|
|||
หน่วยที่ 2 : พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ |
|||
หากพิจารณากิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพยาบาลและผดุงครรภ์สามารถทำได้เมื่อได้รับการมอบหมาย | |||
1. ผู้มีวุฒิประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาลและผดุงครรภ์ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงรรภ์ ชั้นสอง ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ดังนี้ | |||
ด้านอายุรกรรม รักษาพยาบาลเพื่อบรรเทาอาการหรือโรคไข้ตัวร้อน ไข้และมีผื่นหรือจุด ไข้จับสั่น ไอ ปวดศีรษะ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดท้อง ท้องผูก ท้องเดิน คลื่นไส้อาเจียน การอักเสบต่าง ๆ โลหิตจาง ดีซ่าน โรคขาดสารอาหาร อาหารเป็นพิษ โรคพยาธิลำไส้ โรคบิด โรคหวัด โรคหัด โรคสุกใส โรคคางทูม โรคไอกรน โรคผิวหนังและโรคติดต่อตามโครงการของกระทรวงสาธารณสุข การให้น้ำเกลือในผู้ป่วยท้องเดินอย่างรุนแรง การฉีดเซรุ่มแก้พิษงู การสวนปัสสาวะ การล้างกระเพาะอาหารโดยใช้สายยางในรายที่สงสัยว่ารับประทานสารพิษ | |||
ด้านศัลยกรรม ฝ่าฝี เย็บบาดแผลที่ไม่สาหัส ชะล้าง ทำแผล ตกแต่งบาดแผล ผ่าเอาสิ่งแปลกปลอมซึ่งอยู่ในตำแหน่งซึ่งไม่เป็นอันตรายต่ออวัยวะสำคัญของร่างกายออก โดยฉีดยาระงับความรู้สึกทางผิวหนัง | |||
ด้านสูตินรีเวชกรรม ทำคลอดในรายปกติ ทำการช่วยเหลือขั้นต้นในรายที่มีการคลอดผิดปกติ ทำการช่วยเหลือในกรณีที่จะมีการแท้งหรือหลังแท้งแล้ว | |||
การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค | |||
การวางแผนครอบครัว ฉีดยาคุมและจ่ายยาเม็ดคุมกำเนิด | |||
การเจาะเลือดจากปลายนิ้วหรือหลอดเลือดดำเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการหรือเพื่อบริจาคเข้าธนาคารเลือด | |||
ด้านปัจจุบันพยาบาล ให้การปฐมพยาบาลเกี่ยวกับการได้รับสารพิษ และสัตว์มีพิษกัดต่อย การแพ้ยา การแพ้เซรุ่มและวัคซีน การเสียโลหิต ภาวะช๊อค การเป็นลมหมดสติ หยุดหายใจ กระดูกหัก ข้อเคล็ดข้อเคลื่อน ชัก จมน้ำ ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ไฟฟ้าดูด สิ่งแปลกปลอมเข้าตา หู คอ จมูกและกระเพาะอาหารและผู้ป่วยที่เจ็บหนัก | |||
2. ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นสอง ผู้มีวุฒิประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล หรือประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาลและจิตเวช ประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ตาม ข้อ 1 ยกเว้นด้านสูตินรีเวชกรรม |
|||
3. ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ตาม (1) แล้วให้ใส่และถอดห่วงอนามัยได้ |
|||
4. ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสองซึ่งได้ผ่านการอบรมตามหลักสูตรของกระทรวงสาธารณสุข ประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ตาม (1) แล้วให้ใส่และถอดห่วงอนามัยได้ ภายใต้เงื่อนไขดังนี้ |
|||
- ได้ทดสอบผู้ขอรับการใส่ห่วงอนามัยแล้วว่าไม่ตั้งครรภ์ |
|||
- ผู้ขอรับการใส่ห่วงอนามัยได้คลอดบุตรมาแล้ว 45-60 วันและยังไม่มีประจำเดือน |
|||
- ผู้ขอรับการใส่ห่วงอนามัยได้คลอดหรือแท้งลูกมาแล้ว 30 วัน และยังไม่มีประจำเดือน |
|||
5. ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ซึ่งได้ผ่านการอบรม ในหลักสูตรที่เกี่ยวกับการผ่าตัดทำหมันหญิงหลังคลอด หรือหลักสูตรที่เกี่ยวกับการใส่และถอดยาฝังคุมกำเนิด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขกำหนดแล้ว ทำการผ่าตัดทำหมันหญิงหลังคลอดหรือใส่และถอดยาฝังคุมกำเนิดได้ |
|||
6. ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ซึ่งได้รับประกาศนียบัตรการศึกษาหรืออบรมในหลักสูตรวิสัญญีพยาบาลจากกระทรวง ทบวง กรม กรุงเทพมหานคร หรือสถาบันการศึกษาของรัฐบาล ทำการให้ยาสลบได้เฉพาะการให้ยาสลบชนิด General anesthesia คือ การทำให้หมดความรู้สึกตัว แต่ไม่รวมถึงการให้ยาชาทางไขสันหลัง หรือการระงับความรู้สึกทางไขสันหลัง ทั้งนี้ วิสัญญีพยาบาลนั้น ระเบียบยังกำหนดว่า การให้ยาสลบได้ต้องอยู่ในความควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมอย่างใกล้ชิด |
|||
อย่างไรก็ดี การประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามระเบียบดังกล่าวข้างต้น ต้องพิจารณาเงื่อนไขเหล่านี้ประกอบด้วย ซึ่งประกอบไปด้วย |
|||
1. ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในระเบียบ กล่าวคือ ได้รับมอบหมายให้ทำกิจกรรมใดก็ต้องทำตามนั้น จะปฎิบัตินอกเหนือจากที่ได้รับมอบหมายไม่ได้ |
|||
2. ต้องมอบหมายให้เฉพาะการปฏิบัติราชการหรือปฏิบัติราชการตาม หน้าที่ซึ่งไม่รวมการปฏิบัติในภาคเอกชน เช่น ตามสถานพยาบาลเอกชน |
|||
3. ต้องอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม |
|||
นอกจากระเบียบฯ พ.ศ. 2539 ข้างต้น ยังมีกฎหมายอีกหลายฉบับอาทิ ระเบียบฯที่ออกตามอำนาจของพระราชบัญญัติวิชาชีพทันตกรรม ระเบียบที่ยกเว้นคนภายนอกมาประกอบวิชาชีพพยาบาล คือ ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยบุคคลซึ่งกระทรวง ทบวง กรม กรุงเทพมหานคร เมือง พัทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล สุขาภิบาล องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอื่นหรือสภากาชาดไทย มอบหมายให้กระทำการพยาบาลหรือผดุงครรภ์ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. 2544 ซึ่งจะไม่กล่าวรายละเอียดในที่นี้ |
|||
จบหน่วยที่ 2 |
|||
นครินทร์ นันทฤทธิ์ |
|||
|
|||
|
|||