ย้อน หลัง รัฐบาล

ย้อน หลัง รัฐบาล

• PaU6yZYLvJ
• 2024-06-16 22:36:35

ย้อน หลัง รัฐบาล

นายกิติพัฒน์ ชลวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ J Fintech คาดว่าครึ่งหลังปีนี้น่าจะกลับมามีกำไรได้ หลังจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญจากลูกหนี้ ได้แก้ปัญหาและวางมาตรการในการคัดกรองลูกค้า โดยเน้นไปที่ลูกค้าที่มีรายได้สูงขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาในไตรมาส 1/61 บริษัทได้เริ่มดำเนินการแล้ว เห็นได้จากค่าเฉลี่ยของสินเชื่อส่วนบุคคลในแต่ละเดือนของไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีวงเงินสินเชื่อเฉลี่ยต่อราย ณ สิ้นไตรมาส 1/61 เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 60 ราว 65.5% หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3.04 หมื่นบาท

บริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ADAM ระบุว่า ตามทีตลาดหลักทรัพย์ได้คงเครื่องหมาย SP (Suspension) สั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ADAM เนื่องจาก ADAM ยังไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดของว่าด้วยรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์สำคัญและรายการที่เกี่ยวโยงกันกรณีการเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท กีธา พร๊อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด (KITHA) และอยู่ระหว่างดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์กรณีบริษัทเข้าข่ายเป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดในรูปของเงินสด (Cash Company)

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน-กลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกราว 1-2% เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่บวกได้ 0.79% ตอบรับความคาดหวังนายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต มีโอกาสที่จะได้เข้ามาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ซึ่งทำให้ตลาดเอเชียมีภาพความผันผวนน้อยลง และคาดหวังจะมีเม็ดเงินไหลเข้ามาในเอเชีย โดยเฉพาะในตลาดเอเชียเหนือ

นายกิติพัฒน์ ชลวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ J Fintech คาดว่าครึ่งหลังปีนี้น่าจะกลับมามีกำไรได้ หลังจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญจากลูกหนี้ ได้แก้ปัญหาและวางมาตรการในการคัดกรองลูกค้า โดยเน้นไปที่ลูกค้าที่มีรายได้สูงขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาในไตรมาส 1/61 บริษัทได้เริ่มดำเนินการแล้ว เห็นได้จากค่าเฉลี่ยของสินเชื่อส่วนบุคคลในแต่ละเดือนของไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีวงเงินสินเชื่อเฉลี่ยต่อราย ณ สิ้นไตรมาส 1/61 เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 60 ราว 65.5% หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3.04 หมื่นบาท

การปรับเพิ่มขึ้นของอันดับเครดิตนั้นค่อนข้างจำกัดในระยะกลาง เนื่องจากแรงกดดันจากการลงทุนขนาดใหญ่ในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ อย่างไรก็ตาม โอกาสในการปรับอันดับเครดิตขึ้นอาจเกิดขึ้นได้ หากบริษัทสามารถขยายฐานของกระแสเงินสดได้อย่างมาก ในขณะที่ยังสามารถรักษาสถานะทางการเงินที่ดีไว้ได้ ในทางกลับกัน อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากสถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก ซึ่งอาจเกิดจากการลงทุนที่ใช้เงินกู้อย่างเกินตัวหรือการขาดทุนอย่างหนักอันเนื่องมาจากความผิดพลาดในการดำเนินโครงการใหม่ ๆ ของบริษัท