ฟุต พรีเมียร์ ลีก
สำหรับเป้าหมายการเติบโตปี 2563 ซินเน็คฯ ตั้งเป้าเพิ่มความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่นขึ้น โดยผลการดำเนินงานสำหรับงวด 6 เดือนของปี 2563 มีรายได้จากการขายและให้บริการเท่ากับ 16,024 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8 และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 298 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 1.7 จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ในช่วงไตรมาสแรกของปี แต่ยอดขายฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงไตรมาสสองภายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ และคาดจะดีต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง
ขณะที่โครงการแนวราบที่ EVER วางแผนในการขยาย อย่างบ้านเดี่ยว แบรนด์ “มายโฮม อเวนิว” และทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้ ก็จะเห็นเข้ามาสนับสนุนบางส่วน ซึ่งในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม บริษัทฯเตรียมเปิดขายโครงการ “ทาวน์โฮม เอเวอร์ซิตี้ รามอินทรา-วงแหวนจตุโชติ” มูลค่า 630 ล้านบาท ต่อเนื่องจากโครงการ สุขสวัสดิ์ 30 พุทธบูชา และ โครงการเอเวอร์ซิตี้หนามแดง เทพารักษ์ ที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังเป็นการผลักดันให้รายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคต
นอกจากนี้ นายธาริฑธิ์ ยังกล่าวถึงแนวโน้ม NPL ของธนาคารพาณิชย์ในปี 63 ว่า สถาบันการเงินถือว่าเป็นภาพสะท้อนระบบเศรษฐกิจได้ดีในระดับหนึ่ง ดังนั้นเมื่อระบบเศรษฐกิจแผ่วลง จึงมีความเป็นไปได้ที่ NPL จะปรับสูงขึ้น ส่วนจะปรับขึ้นมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นกับมาตรการที่เข้าไปช่วยเหลือจะเพียงพอหรือไม่ทั้งในส่วนของมาตรการจากภาครัฐ และมาตรการเสริมสภาพคล่องทางการเงิน, การปรับตัวของผู้ประกอบการทำได้มากน้อยเพียงใด รวมทั้งสถาบันการเงินเข้าไปให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
โดยกลยุทธ์การขยายธุรกิจในอินเดียของดุสิต คือการเลือกแบรนด์โรงแรมที่มีคุณภาพ ทั้งดุสิตปริ๊นเซส และดุสิตดีทู เพื่อช่วยต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ที่มีอยู่ของนักลงทุนหรือเจ้าของกิจการ โดยหนึ่งในตัวอย่างของดีลที่คาดว่า จะปิดได้เร็วๆ นี้ คือ การนำปราสาทเก่าแก่มาทำเป็นโรงแรมระดับหรู โดยกลุ่มดุสิตตั้งใจที่จะนำรูปแบบการให้บริการแบบไทย มาผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นของอินเดีย เพื่อสร้างประสบการณ์การพักผ่อนที่มีระดับให้กับลูกค้าและมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับชุมชนรอบข้าง
ขณะที่โครงการแนวราบที่ EVER วางแผนในการขยาย อย่างบ้านเดี่ยว แบรนด์ “มายโฮม อเวนิว” และทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ ซิตี้ ก็จะเห็นเข้ามาสนับสนุนบางส่วน ซึ่งในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม บริษัทฯเตรียมเปิดขายโครงการ “ทาวน์โฮม เอเวอร์ซิตี้ รามอินทรา-วงแหวนจตุโชติ” มูลค่า 630 ล้านบาท ต่อเนื่องจากโครงการ สุขสวัสดิ์ 30 พุทธบูชา และ โครงการเอเวอร์ซิตี้หนามแดง เทพารักษ์ ที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังเป็นการผลักดันให้รายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคต
ฟุต พรีเมียร์ ลีก เล่น เกม ง่ายๆ ได้ เงิน
w9y5hBbGiO